# การช่วยเหลือผู้อื่นควรเป็นเป้าหมายของคริสตจักร by Andi Becker  พระคัมภีร์เน้นให้ผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ช่วยเหลือผู้อื่นเพราะมันสนับสนุนค่านิยมของความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และการให้บริการแก่ผู้อื่น ในขณะที่การสนับสนุนอาคารโบสถ์หรือคริสตจักรวางอยู่ในกรอบของการทำผิดผลาญ พระคัมภีร์สอนให้ผู้เชื่อให้ลำบากใจทางการให้ความกรุณา ความเมตตา และความเมตตากรุณาต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ นี่คือเหตุผลหลายประการที่การช่วยเหลือผู้อื่นถูกเน้นขึ้น: 1. ความรักและความเห็นอกเห็นใจ: เยซูสอนว่าคำสั่งสองอันยิ่งใหญ่ที่สุดคือรักพระเจ้าและรักเพื่อนบ้านเช่นเดียวกับตนเอง (มัทธิว 22:37-39) การช่วยเหลือผู้อื่นเป็นการแสดงออกเป็นจริงของความรักและความเห็นอกเห็นใจ ที่สะท้อนลักษณะของคริสต์และเป็นการปฏิบัติตามสั่งสอนของพระองค์ 2. การสอดคล้องกับความต้องการทางปฏิบัติ: พระคัมภีร์เน้นให้ผู้เชื่อดูแลผู้จน หญิงหม้าย เด็กกำพร้า และผู้ที่อยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก (ยากอย่าง 1:27, สุภาษิต 19:17) ผู้เชื่อได้รับเรียกให้ให้ความช่วยเหลือทางปฏิบัติกับผู้ที่อยู่ในสภาวะที่เป็นของหวัง ที่เจ้าชูให้ความช่วยเหลือให้กับผู้ที่ตกอยู่ในเสน่ห์ หรือผู้ที่อยู่ในความจำเป็น 3. องค์ประกอบของคริสต์และการให้เป็นแบบอย่าง: เยซูได้แสดงอย่างเล็กน้อยถึงความเอื้อเฟื้อและการให้บริการ เขารักษาคนป่วย ให้อาหารคนอดออกไป และเป็นนักปฏิบัติหลักสำหรับผู้ที่ถูกบังคับออกหรือถูกตัดออกจากสังคม ในฐานะผู้ตามคำสั่งสอนของเยซู ผู้เชื่อได้รับเรียกให้จำลองความรักที่เสียสละและการกระทำโดยไม่หวังผลประโยชน์ของเขา 4. การจัดการและความเจริญ: พระคัมภีร์สอนให้ทราบว่าทุกสิ่งที่เรามีในที่สุดนั้นเป็นของของพระเจ้า และเราได้รับเรียกให้เป็นพ่อค้าที่ดีของทรัพยากรของพระองค์ (1 เปตร 4:10) ซึ่งรวมถึงการใช้ทรัพยากรของเราในการให้ความพึงพอใจและช่วยเหลือผู้อื่น แทนที่จะมุ่งเน้นเฉพาะในการได้รับผลประโยชน์ส่วนบุคคลหรือการสะสมทรัพย์สิน 5. มุมมองที่สู่สุขภาพใจ: พระคัมภีร์เชิดให้ผู้เชื่อให้ใส่ใจกับของที่อยู่ในสวรรค์มากกว่าความร่ำรวยทางโลก (มัทธิว 6:19-20) ในขณะที่การสร้างอาคารโบสถ์และคริสตจักรมีความต้องการในทางปฏิบัติ การเน้นควรไม่ได้รับการสะสมความร่ำรวยหรือทรัพย์สินวัตถุเป็นหลัก แต่ควรให้ความสำคัญกับการยกระดับอาณาจักรของพระเจ้าและให้บริการแก่ผู้อื่น สำหรับข้อความนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องสังเกตได้ว่าไม่ใช่ทุกโบสถ์หรือคริสตจักรที่มีการใส่ใจการสะสมทรัพย์สินหรือสนับสนุนทางจิตวิญญาณแบบความเจริญทางสุขแห่งการให้ มีโบสถ์อีกจำนวนมากที่มุ่งเน้นให้บริการในชุมชน ดำเนินกิจกรรมเพื่อยุติธรรมสังคม และสนับสนุนผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ สำคัญอย่างยิ่งที่ผู้คนจะต้องสามารถสังเกตเทคนิคและการปฏิบัติของคริสตจักรเฉพาะหนึ่งและให้แน่ใจว่าเข้ากันได้กับหลักการคำสอนในพระคัมภีร์เกี่ยวกับความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และการให้บริการโดยเอาใจใส่ผู้อื่น 29-05-2023 English Original\  Thai Translation\ \ more to come